เดินเร็ว
ลดอ้วนได้ชะงัก
สธ.แนะเดินเร็วเพียงวันละ
1
ชั่วโมง
ลดอ้วนลงพุง
โรคอ้วนได้ร้อยละ
24 เผยปล่อยตัวให้อ้วนจนลงพุงอันตราย
เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนไม่มีพุงถึง
3 เท่าตัว
นพ.มงคล
กล่าวว่า
ขณะนี้คนไทยส่วนใหญ่กำลังประสบปัญหาอ้วนลงพุง
คือ
ผู้ชายเกิน 90
เซนติเมตร
ผู้หญิงเกิน
80 เซนติเมตร
โดยไม่รู้ว่าการอ้วนลักษณะนี้จะมีอันตรายต่อตัวเอง
ซึ่งคนที่อ้วนลงพุงจะมีไขมันสะสมในช่องท้องปริมาณมาก
ยิ่งรอบพุงมากเท่าไหร่ไขมันยิ่งสะสมในช่องท้องมากเท่านั้น
ไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ
มีผลให้อินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี
ทำให้น้ำตาลในเลือดสูง
จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนไม่อ้วนหรือคนไม่มีพุงประมาณ
3 เท่าตัว
และเมื่อเป็นเบาหวานแล้วจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดที่หัวใจและที่สมองขึ้นอีกประมาณ
3 เท่าตัว
ดังนั้น
ใครที่ยิ่งพุงใหญ่เท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสเสียชีวิตเร็วขึ้น
นพ.มงคล
กล่าวต่อไปว่า
ในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคดังกล่าวนั้น
สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวออกแรงและออกกำลังกาย
และวางแผนปรับเปลี่ยนการบริโภคอาหาร
โดยกินผักให้มากขึ้น
ลดการกินอาหารหวานจัด
เค็มจัด
อาหารที่มีไขมันสูง
ทั้งนี้ในการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันในช่องท้อง
ควรออกกำลังกายชนิดที่ชื่นชอบ
สัปดาห์ละ 3 วันๆ
ละไม่น้อยกว่า
30 นาที
จะช่วยควบคุมน้ำหนักให้คงเดิม
ส่วนผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรออกกำลังกายแบบแอโรบิก
ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า
45 นาที
โดยมีการออกกำลังกายแบบเพิ่มแรงต้านด้วย
เช่น
การยกน้ำหนัก
ทำให้ขนาดกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
เกิดการเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น
น้ำหนักที่ลดลงไปก็จะลดไขมันที่มีอยู่ด้วย
สำหรับกลุ่มอายุ
40-50 ปี
ควรออกกำลังกายอย่างน้อย
5 วันต่อสัปดาห์
วิธีลดน้ำหนักที่ให้ผลดีคือ
การเดินเร็วอย่างต่อเนื่องซึ่งสามารถทำได้ง่ายมาก
โดยหากเดินเร็วเพียงวันละ
1 ชั่วโมงจะลดโอกาสการเกิดโรคอ้วนได้ร้อยละ
24 |