วัยรุ่น: รักและผูกพัน

 

 

      ความรักไม่ใช่หลักประกันว่า เราจะมีความสุขชั่วนิรันดร์ แต่ความรักก็มีส่วนช่วยให้เรามีโอกาสที่จะพยามใช้ศักยภาพที่มีอยู่ เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนที่เราหลงรัก ช่วยให้เรารู้จักใช้ความอดกลั้น รู้จักควบคุมอารมณ์ รวมทั้งมีโอกาสได้พัฒนาทักษะในการสื่อสาร

     คนที่มีวุฒิภาวะจะเรียนรู้การจัดการกับอารมณ์ต่างๆ ของตนเอง มีความเชื่อมั่นและมีความไว้วางใจ ดังนั้น แม้ว่าเราจะมีความคิดฝังใจว่า ความรักนั้นให้ความสุขสำราญใจเสมอ ในขณะเดียวกันก็ขอให้ตระหนักไว้ด้วยว่าบ่อยครั้งที่ความรักนำมาซึ่งความเจ็บปวด และมีแต่การเรียกร้อง

 

รักในแง่คิดของมาสโลว์

     นักจิตวิทยาชื่อ อับราฮัม มาสโลว์ ได้พูดถึงเรื่องความรักไว้ว่า

  • คนเราต้องการความรักที่มั่นคง แต่คนที่เปลี่ยนไปรักคนใหม่อยู่เรื่อยๆ หรือตกหลุมรักบ่อยๆ เป็นเพราะต้องการรักษาความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจให้คงอยู่
  • ความรักมักจบลงเพราะความโกรธและความเบื่อหน่าย เนื่องจากเมื่อเกิดความรู้สึกดังกล่าว จะทำให้คนเราลืมคิดถึงใจเขาและเลิกพยายามที่จะยอมรับอีกฝ่ายหนึ่ง
  • องค์ประกอบของความรักจะต้องมีมิตรภาพ มีการแบ่งปัน ให้ความนับถือต่อกัน การยอมรับกันและมีความยืดหยุ่น
  • ความรักที่มีคุณภาพต้องให้ความสำคัญกับความคิด และความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อไหร่ก็ตามที่จะต้องการมีการตัดสินใจ ควรระมัดระวังอย่างมาก เพราะอาจเกิดผลกระทบต่อสัมพันธภาพระหว่างกันได้ และสิ่งที่ควรระวังก็คือ อย่าตัดสินใจแบบเผด็จการ เนื่องจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถูกกดดันและเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองคับข้องใจ

ความเป็นส่วนตัว

     การเป็นคู่รักกันมิใช่ว่าจะต้องคิดเหมือนกัน มีความรู้สึกเหมือนๆกันหรือทำอะไรร่วมกันอยู่ตลอดเวลา เพราะคนเราทุกคนย่อมมีความคิด ความรู้สึกเป็นของตนเอง การพยายามให้อีกฝ่ายคิด รู้สึกหรืออยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา อาจกลายเป็นเครื่องบั่นทอนความสัมพันธ์ให้สะบั้นลง ไม่ก็กลายเป็นการทำลายความรักให้หมดสิ้นไป เนื่องจากทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และก่อให้เกิดความขุ่นเคืองใจได้ง่าย เพราะการที่ต้องยอมตาม หรือเห็นด้วยกับอีกฝ่ายในทุกเรื่อง ย่อมทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ

 

     ดังนั้น การจะพูดอะไรต้องเคารพและรับผิดชอบต่อความคิดของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย เพื่อช่วยให้อีกฝ่ายมีความเป็นตัวของตัวเอง การที่แต่ละฝ่ายมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้างเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าอยากใช้เวลาอยู่ร่วมกันนั่นหมายถึง ต่างก็มีความต้องการเช่นนั้น มิใช่ทำเพราะไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ หรือเพียงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น ทางที่ดีต่างฝ่ายควรมีช่วงเวลาที่จะแบ่งปันให้กับเพื่อนฝูง กิจกรรม หรืองานอดิเรกที่ตนเองสนใจบ้าง แล้วนำเอาเรื่องราวต่างๆ ที่พบเห็นมาเล่าสู่กันฟังในภายหลัง จะให้สรชาดที่แปลกออกไป ชีวิตมีสีสันขึ้นและไม่น่าเบื่อหน่าย

 

     โดยธรรมชาติ คนที่เริ่มรักกันใหม่ๆ มักต้องการเวลาอยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลา แต่พอนานไป ความต้องการแบบนี้ก็จะลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้น ถ้าต้องการให้สัมพันธ์รักมั่นคง ทั้งคู่ก็ควรมีเวลาส่วนตัวที่เป็นของตัวเอง การยึดติดหรือพึ่งพาอาฝ่ายตลอดเวลาจะไม่ช่วยพัฒนาความรักให้ดีขึ้น หรือเป็นความรักที่มีวุฒิภาวะได้เลย

 

เมื่อความรักยุติลง

     มิใช่ว่าความรักของคู่รักทุกคู่จะสมหวังเสมอไป หลายคู่จบลงด้วยการหันหลังให้แก่กันแบบทางใครทางมัน บางคู่ก็รู้สาเหตุของการแยกทางกัน แต่บางคู่ก็ไม่รู้กระจ่างชัดนักว่าเลิก เพราะสาเหตุใดกันแน่ แต่ที่แน่นอนก็คือ เมื่อความรักจบสิ้นลงก็ย่อมมีความเจ็บปวดรวดร้าวเกิดขึ้น จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับแต่ละเหตุการณ์และ แต่ละบุคลิกภาพของบุคคล มีคนไม่น้อยที่ตำหนิว่าเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเป็นทางออกที่ใช้เพื่อบรรเทาความรู้สึกเศร้าและโกรธ ที่จะเกิดตามมาคือ ความว้าเหว่ ว่างเปล่าและความรู้สึกหมดหวัง แต่อารมณ์เหล่านี้จะค่อยๆ หมดไป เมื่อวันเวลาผ่านพ้นไปนานขึ้น หรือเมื่อเราสามารถสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับคนใหม่ได้ ซึ่งเป็นกระบวนการปรับตัวของคนเรา การเปิดโอกาสตัวเองให้กับคนใหม่ๆ ลดความว้าวุ่น ก้าวร้าวให้เบาบางลง สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องยอมรับว่ารักเก่ากับคนเก่านั้นจบลงแล้ว และแม้จะยังสับสนจนหนทางไม่รู้จะจัดการกับตัวเองอย่างไรดีก็ตาม แต่ก็ต้องมุ่งมั่นและย้ำกับตนเองเสมอว่า ชีวิตของเราต้องก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

 

 

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
ปรับปรุงครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2546