ปัญหาบุคลิกภาพ: มนุษย์ไม้บรรทัด

 

 

     เมื่อก่อนเราใช้ไม้เป็นวัสดุทำไม้บรรทัด แต่ปัจจุบันไม้บรรทัดกลายเป็นพลาสติกบรรทัดไปเกือบหมดแล้ว ไม้บรรทัดที่ทำด้วยไม้จริง ๆ จึงหาดูได้ยากขึ้นทุกวันแต่จะหา มนุษย์ไม้บรรทัดหรือคนเจ้าระเบียบดูจะง่ายกว่า 

     คนที่มีบุคลิกภาพเจ้าระเบียบ (PERFECTIONIST) หรือที่ผมให้ชื่อว่ามนุษย์ไม้บรรทัดนี้ พบว่าเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมักพบในลูกคนโตมากกว่าลูกคนรอง ๆ ลงไป เป็นเพราะว่าพ่อแม่จำนวนมากยังมีค่านิยมที่ให้ความสำคัญลูกชายมากกว่าลูกสาว เพราะลูกชายจะเป็นผู้สืบสกุล ค่านิยมนี้เห็นได้ชัดจากวัฒนธรรมของชาวจีน ที่มักให้ลูกชายคนแรกเป็นผู้นำครอบครัวในรุ่นถัดไป หรือให้หลานชายคนโตเป็นผู้รับบทบาทสำคัญในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น ในพิธีสวดกงเต้กจะให้หลานชายคนโตแต่งกายไว้ทุกข็แบบเดียวกับคนรุ่นลูก นอกจากนั้นชาวจีนแต่โบราณยังต้องการมีลูกแยกตามเพศอีกว่า พ่อแม่คู่ใดที่มีลูกชาย 5 คน ลูกสาว 2 คน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นยอดปรารถนา ครอบครัวใดมีแต่ลูกสาวโดยไม่มีลูกชายนับได้ว่าไม่มีบุญวาสนา ความสำเอียงนี้ก่อให้เกิดความคาดหวังของพ่อแม่ โดยแสดงออกในรูปของความเข้มงวดในการเลี้ยงดูต่อลูกชาย โดยเฉพาะลูกคนโตให้ต้องมีภาระและความรับผิดชอบมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลให้เพศชายและลูกคนโตมีความโน้มเอียงในการเกิดบุคลิกภาพแบบเจ้าระเบียบมากขึ้น 

 

     นอกจากนั้นพ่อแม่ที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สมหวังมาก่อน เช่น เคยเรียนไม่ดีและรู้สึกอับอาย หรือเคยขาดโอกาสในการเล่าเรียน อาจเป็นเพราะปัญหาครอบครัวหรือปัญหาทางเศรษฐกิจ จนรู้สึกว่าการขาดการศึกษาเป็นปมด้อยอย่างใหญ่หลวงในใจตน ก็เป็นสาเหตุให้พยายามอบรมเคี่ยวเข็ญลูก ๆ โดยเฉพาะด้านการเรียนเพื่อชดเชยความไม่สมหวังของตนเองในอดีต 

 

     พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยวิธีเข้มงวดกวดขันมากจนเกินไป มักจะใช้การตำหนิบ่อยและวางกฎเกณฑ์มาก ๆ ให้ลูกปฏิบัติเพราะต้องการให้ลูกทำอย่างที่ใจตนเองต้องการ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กเครียดบางครั้งเกิดความรู้สึกกลัว ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และไม่กล้าแสดงออกเมื่อเกิดความรู้สึกคับข้องใจ หากเด็กถูกกดดันมากเมื่อโตขึ้นอาจจะมีบุคลิกภาพแบบก้าวร้าวสมยอม (PASSIVE AGGRESSIVE) หรือก้าวร้าวแบบเปิดเผย เพราะรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักและครอบครัวไม่อบอุ่น หากเด็กปรับตัวได้ตาม ควรจะมีบุคลิกภาพเป็นลักษณะเจ้าระเบียบ 

 

คนบุคลิกเจ้าระเบียบจะมีลักษณะประจำดังต่อไปนี้ 

 

1) สนใจเรื่องต่าง ๆ ในรายละเอียดปลีกย่อยมาก มักดูแลความสะอาดเรียบร้อยของร่างกายและเครื่องแต่งตัวเป็นอย่างดี ทรงผมหวีเรียบแปล้ ใบหน้าสะอาดสะอ้าน ผู้หญิงเจ้าระเบียบจะแต่งหน้าอย่างประณีตบรรจง เช่น ประดิดประดอยเขียนคิ้วทั้ง 2 ข้างให้โค้งและมีขนาดเท่ากันเปี๊ยบ ไม่ชอบให้เครื่องแต่งกายมีรอยยับย่น ไม่ชอบให้รองเท้ามีรอยถลอก ผู้หญิงเจ้าระเบียบจึงมักใช้เวลาพิถีพิถันแต่งหน้าและแต่งตัวนานเป็นพิเศษ และมักหงุดหงิดที่เห็นคนอื่นแต่งกายไม่เรียบร้อย หรือขมวดคิ้วไม่พอใจหากเห็นคนรอบข้างไว้ทรงผมยุ่งกระเซิง 

 

2) หมกมุ่นกับความรับผิดชอบมาก มีความยุติธรรมและคุณธรรมดีเลิศ จะไม่ยอมผิดเวลานัดรวมไปถึงคาดหวังให้ผู้อื่นรักษาเวลานัดหมายดีไปด้วย ซึ่งมักจะผิดหวัง คนเจ้าระเบียบจึงทุ่มเทให้กับการทำงานมากจนขาดการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น 

 

3) ใช้ชีวิตประจำวันซ้ำ ๆ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เช่น กินอาหารร้านประจำซ้ำ ๆ หรือขับรถเส้นทางเดิม ๆ ไม่ค่อยยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นหรือวิวัฒนาการใหม่ ๆ และต้องการให้คนอื่นทำตามความคิดเห็นของตนเองเสมอ จึงมีลักษณะดื้อรั้น

 

4) ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจเพราะกลัวผิด กลัวถูกตำหนิหรือผิดศีลธรรม 

 

5) เครียดง่าย คนอยู่ใกล้ไม่รู้สึกอบอุ่นและไม่ชอบการพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นชีวิตส่วนตัวจึงแห้งแล้งไม่ค่อยมีความสุข 

 

- สัมพันธภาพกับคนรอบ ๆ ตัวก็จะมีทั้งด้านดีและด้านด้อย 

 

- กับเจ้านาย เจ้านายจะชอบตรงการทุ่มเทให้กับการทำงานและความรับผิดชอบดีเยี่ยม แต่ไม่ชอบความดื้อรั้น ไม่ค่อยโอนอ่อนผ่อนตามและไม่ประจบ (ตรงนี้เจ้านายเกลียดนัก) 

 

- กับเพื่อน ๆ เพื่อนจะชอบที่ หากรับปากช่วยทำอะไรแล้ว จะไม่คืนคำบิดพลิ้วและไม่เอาเปรียบเพื่อน แต่เนื่องจากคนเจ้าระเบียบ เป็นคนไม่ค่อยเฮฮาครึกครื้นจึงมีเพื่อนน้อย 

 

- กับลูกน้อง ลูกน้องจะชอบตรงที่มีความยุติธรรมไม่ลำเอียง แต่ไม่ชอบตรงที่เคร่งครัดกับกฎระเบียบมาก คอยจ้ำจี้จ้ำไชกับการงาน แม้กระทั่งรายละเอียดจนลูกน้องอึดอัด และมักให้คำตำหนิมากกว่าคำชม ทำให้ลูกน้องซึ่งกำลังคอยเงี่ยหูฟังคำชมผลงานต้องหน้าหงายเสมอ ๆ เพราะเจ้านายช่างสรรหาข้อตำหนิจุดเล็กจุดน้อยมาจนได้ 

 

     โดยรวมแล้วคนเจ้าระเบียบมักจะมีการงานที่มั่นคง เพราะไม่ใช่คนเหลวไหล แต่มีความรับผิดชอบ ทุ่มเทให้กับงาน ละเอียดถี่ถ้วนและรักษาระเบียบวินัยดี ปัญหาที่เกิดจึงเป็นปัญหาทางสังคม และสัมพันธภาพกับผู้อื่นมากกว่า และที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด ก็คือบรรยากาศในครอบครัวของคนเจ้าระเบียบไม่ค่อยอบอุ่น ทั้งนี้เพราะคนประเภทนี้จะทำอะไรก็ดูจริงจังไปหมด มีการตำหนิบ่อย ไม่ค่อยผ่อนคลาย ไม่ค่อยอ่อนหวานโรแมนติก จึงมักทำให้คู่ชีวิตเกิดความรู้สึกไม่แน่ใจในความรัก ลองว่าคู่ครองใดที่อยู่ด้วยกันโดยไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายรักตนหรือไม่ยังจะหาความสุขได้จากไหน 

 

     หากใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเกิดรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังอ่านนิสัยใจคอของตนเองอยู่ ก็อย่าได้รอช้าเลย จงเร่งปรับปรุงตัวเองโดยลดความเป็นมนุษย์ไม้บรรทัดลงเสียบ้าง และพยายามสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นให้มากขึ้น ชีวิตจะมีความสุขกว่าเดิม 

 

     ที่สำคัญที่สุด อย่าลืมหันไปมองและให้ความสนใจกับคู่ชีวิตด้วยการเติมความโรแมนติคให้มาก ๆ และบ่อย ๆ เช่น พูดด้วยคำพูดหวาน ๆ มีการสัมผัสหยอกเย้าสบตาอย่างหวานซึ้ง และให้ของกำนัลที่มีความหมายในวันเกิด วันวาเลนไทน์ หรือวันครบรอบวันแต่งงาน ก่อนที่เขาหรือหล่อนจะแห้งเฉาตายไปเสียก่อน 
เมื่อก่อนเราใช้ไม้เป็นวัสดุทำไม้บรรทัด แต่ปัจจุบันไม้บรรทัดกลายเป็นพลาสติกบรรทัดไปเกือบหมดแล้ว ไม้บรรทัดที่ทำด้วยไม้จริง ๆ จึงหาดูได้ยากขึ้นทุกวันแต่จะหา มนุษย์ไม้บรรทัดหรือคนเจ้าระเบียบดูจะง่ายกว่า 

 

     คนที่มีบุคลิกภาพเจ้าระเบียบ (PERFECTIONIST) หรือที่ผมให้ชื่อว่ามนุษย์ไม้บรรทัดนี้ พบว่าเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมักพบในลูกคนโตมากกว่าลูกคนรอง ๆ ลงไป เป็นเพราะว่าพ่อแม่จำนวนมากยังมีค่านิยมที่ให้ความสำคัญลูกชายมากกว่าลูกสาว เพราะลูกชายจะเป็นผู้สืบสกุล ค่านิยมนี้เห็นได้ชัดจากวัฒนธรรมของชาวจีน ที่มักให้ลูกชายคนแรกเป็นผู้นำครอบครัวในรุ่นถัดไป หรือให้หลานชายคนโตเป็นผู้รับบทบาทสำคัญในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น ในพิธีสวดกงเต้กจะให้หลานชายคนโตแต่งกายไว้ทุกข็แบบเดียวกับคนรุ่นลูก นอกจากนั้นชาวจีนแต่โบราณยังต้องการมีลูกแยกตามเพศอีกว่า พ่อแม่คู่ใดที่มีลูกชาย 5 คน ลูกสาว 2 คน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และเป็นยอดปรารถนา ครอบครัวใดมีแต่ลูกสาวโดยไม่มีลูกชายนับได้ว่าไม่มีบุญวาสนา ความสำเอียงนี้ก่อให้เกิดความคาดหวังของพ่อแม่ โดยแสดงออกในรูปของความเข้มงวดในการเลี้ยงดูต่อลูกชาย โดยเฉพาะลูกคนโตให้ต้องมีภาระและความรับผิดชอบมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลให้เพศชายและลูกคนโตมีความโน้มเอียงในการเกิดบุคลิกภาพแบบเจ้าระเบียบมากขึ้น 

 

     นอกจากนั้นพ่อแม่ที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สมหวังมาก่อน เช่น เคยเรียนไม่ดีและรู้สึกอับอาย หรือเคยขาดโอกาสในการเล่าเรียน อาจเป็นเพราะปัญหาครอบครัวหรือปัญหาทางเศรษฐกิจ จนรู้สึกว่าการขาดการศึกษาเป็นปมด้อยอย่างใหญ่หลวงในใจตน ก็เป็นสาเหตุให้พยายามอบรมเคี่ยวเข็ญลูก ๆ โดยเฉพาะด้านการเรียนเพื่อชดเชยความไม่สมหวังของตนเองในอดีต 

 

     พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยวิธีเข้มงวดกวดขันมากจนเกินไป มักจะใช้การตำหนิบ่อยและวางกฎเกณฑ์มาก ๆ ให้ลูกปฏิบัติเพราะต้องการให้ลูกทำอย่างที่ใจตนเองต้องการ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กเครียดบางครั้งเกิดความรู้สึกกลัว ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และไม่กล้าแสดงออกเมื่อเกิดความรู้สึกคับข้องใจ หากเด็กถูกกดดันมากเมื่อโตขึ้นอาจจะมีบุคลิกภาพแบบก้าวร้าวสมยอม (PASSIVE AGGRESSIVE) หรือก้าวร้าวแบบเปิดเผย เพราะรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักและครอบครัวไม่อบอุ่น หากเด็กปรับตัวได้ตาม ควรจะมีบุคลิกภาพเป็นลักษณะเจ้าระเบียบ 

 

 

 

นายแพทย์สินเงิน สุขสมปอง
จากหนังสือ "โรคจิต..หายได้นะครับ"
ปรับปรุงครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2545