|
อย่าปล่อยให้ “ความเครียด” ลอยนวล สังคมรอบข้างมักนำความเครียดมาสู่ตัวเราได้อย่างน่าอัศจรรย์ บางคนโชคดีเครียดแล้วสามารถยับยั้งได้
ไม่ปล่อยเลยตามเลยจนถึงขั้นต้องนั่งกุมขมับ
แต่บางคนเป็นหนักถึงขั้นไมเกรนเล่นงาน แก้ไม่ได้
รักษาไม่หายก็น่าเป็นห่วงเหมือนกัน น้องเมธาวี โพธิ์กลิ่น
จากโรงเรียนนวมินทราชินูทิศเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า
เป็นคนหนึ่งที่มีวิธีการแก้เครียดได้อย่างดีเยี่ยม วิธีการง่ายๆ นี้มี 6
ขั้นตอนด้วยกัน เริ่มต้นด้วย ยิ้ม การยิ้มเป็นภาษากายที่ดีที่สุด
เป็นการเปิดประตูของหัวใจรับความสุขและให้ความสุขแก่ผู้อื่น
อีกทั้งยังเป็นการชื่นชมตัวเองได้ด้วย จงคิดว่าเรายิ้มให้กับความดีของคนอื่น
จงยิ้มอย่างสดชื่น อย่างอารมณ์ดีมีชีวิตชีวา ก็จะช่วยสกัดอาการเครียดลงได้ อย่ากังวล ความกังวลเกิดจากความคาดหวัง
อยากจะได้ในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก และใจก็จะคิดอยากได้อยู่เสมอ
หากเราลดความต้องการ ลดความอยากได้ลง ก็เท่ากับเราได้ตัดวงจรแห่งความเครียดออกไป
เราก็จะไม่เป็นทุกข์อีกต่อไป ความระแวง ความระแวงทำให้เป็นโรคเหงา
คบใครๆ ก็ไม่สนิทใจ และรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่กับผู้อื่น อาการแบบนี้แก้ไขได้ด้วยการทำอดีตให้เป็นอดีต
อย่าทำอดีตให้เป็นปัจจุบันและกลัวอนาคต "เลิกคิดเถิดความระแวง
มะเร็งของความสุขของมนุษย์" ความโกรธ ความโกรธเป็นอารมณ์ที่น่ากลัวและรุนแรงที่สุด
การลดความโกรธมีหลายอย่าง เช่น การทำงานให้มากขึ้น ออกกำลังกาย สนใจศิลปวัฒนธรรม
ธรรมชาติ เดินทางท่องเที่ยว ดนตรี เล่นกีฬา
เมื่อเพลิดเพลินกับอิริยาบถอื่นความโกรธก็จะจางหายไป อารมณ์ขัน อารมณ์ขันนี้เป็นยาวิเศษที่ทำให้มนุษย์มีความสุข
ผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้เกิดมิตรภาพ มีความสนุกสนานและทำให้บรรยากาศรอบๆ
ตัวจะสุนทรี สามารถลดตัวเองสู่ความเป็นเด็กได้ ช่วยให้มองโลกในแง่ดี
รู้จักให้อภัยตัวเองและผู้อื่น คาถาคลายเครียด "ช่างมัน"
มนุษย์หนีความเครียดไม่พ้นหรอก บางคนมีมาก บางคนมีน้อย ความเครียดจึงทำให้ไม่เป็นสุข
ทุกอย่างที่เกิดขึ้น มีการเปลี่ยนแปลงไป และสิ้นสุดได้ทั้งนั้น
เมื่อรู้แล้วก็ปล่อยวาง หรือ "ช่างมัน"
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วใครอยากจะเครียดนานๆ ก็ตามใจ
นอกจากไม่มีความสุขแล้วยังแก่เร็ว ป่วยบ่อยๆ ด้วย จริงอยู่ “ความเครียด” เกิดง่าย แต่เราก็สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
เชื่อว่าหากปฏิบัติตาม 6 วิธีที่กล่าวไป ต่อให้ความเครียดมากันเป็นขบวน
ก็ทำอะไรเราไม่ได้ |