กฎ 5 ข้อของการหางานได้สำเร็จ
 
 
โดย : พอล แฮสติ้งส์   
 
 

          บทสรุปสั้น ๆ ต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้ท่านพิชิตงานดังหวังได้สำเร็จหากมีแผนงานด้านการพัฒนางานอาชีพที่ดีจะช่วยเติมเต็มรายละเอียดสำคัญ ๆ ในการก้าวสู่จุดหมายดังหวังกับงานที่มีศักยภาพของท่านได้

       จงเตรียมการและมีความพยายามสูง : กฎข้อแรกสำหรับทุกคนที่จะเริ่มหาอาชีพใหม่สักอาชีพหนึ่ง คือ ท่านต้องมุ่งมั่นและมีความพยายาม อย่าลืมว่าแม้จะใช้สารพัดเครื่องมือช่วยให้ง่ายและรวดเร็วขึ้นก็ตาม แต่ไม่มีทางลัดสู่ความสำเร็จอยู่ดี กุญแจหลักอยู่ที่เราต้องมีจุดหมายเสียก่อน มีจุดหมายที่จะสมหวังและมีค่าพอและยั่งยืนชั่วชีวิต แล้วอะไรล่ะคือคุณค่าที่สมควรทุ่มเทถึงเพียงนั้น เพียงเพราะว่าจะได้รับเงินปันผลในหลาย ๆ ปีข้างหน้ากระนั้นหรือ มีผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ว่า คนเราจะสามารถเปลี่ยนอาชีพได้ประมาณ 5 ครั้งในชั่วชีวิตการทำงานของเรา แล้วคุณล่ะถึงตอนนี้กี่ครั้งแล้ว ถ้านี่คือครั้งแรกของคุณ ครั้งที่สองก็ย่อมง่ายยิ่งกว่าเดิมหากคุณใช้วิธีการที่ถูกต้องของช่วงเวลาที่ถูกต้อง

       รู้จักตัวเอง : เราควรทดลองใช้แบบทดสอบต่าง ๆ เพื่อทดสอบตัวเอง เช่น การทดสอบความถนัด(APTITUDE TEST) แบบทดสอบค้นหาสิ่งที่ตนสนใจ หรือแบบทดสอบด้านบุคลิกภาพ ทั้งนี้เพื่อใช้วัดความถนัดและความสามารถด้านต่าง ๆ ในตัวเรานั่นเอง ซึ่งวิธีการเหล่านี้ใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งช่วยทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นโดยเฉพาะช่วงแรกของการดำเนินชีวิต หากไม่มีสิ่งชดเชยอื่นอีก เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้ นับว่าเครื่องมือเหล่านี้เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้ถึงจุดอ่อนจุดแข็ง ความสนใจพิเศษ ความชอบและความไม่ชอบของเรา รวมถึงสิ่งแวดล้อมของงานที่ชอบ ปัจจัยที่มีผลต่อความเครียด ลักษณะคุณสมบัติที่ต้องการ ปัจจัยท่างสังคม(ว่าเราจะตอบสนองอาชีพที่ได้รับอย่างไร) และสารพัดสิ่งอย่างที่สามารถค้นพบหรือเจอะเจอจากการทำแบบทดสอบความถนัดและแบบสอบถามด้านบุคลิกภาพ การรู้จักตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะบอกเราให้รู้ว่าบุคลิกลักษณะแบบใด จึงจะเหมาะสมกับงานนั้น ๆ หลังจากนั้นให้พัฒนาแผนงานอาชีพของเรา ต้องชี้ชัดลงไปว่าจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร หากต้องการเริ่มต้น ลองทบทวนศึกษาจากกฎข้อ 2 นี้ดูก่อน

       สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคุณต้องรู้ว่าคุณเป็นใคร มองหางานประเภทไหนอยู่ หากไม่ทราบจะเดินไปทางไหนดี จุดหมายก็ย่อมไม่มีและจบสิ้นไปเลยทีเดียว หันมาพิจารณาวัตถุประสงค์อาชีพของตนให้ชัดเจนและทำให้มันกระชับที่สุด แล้วลองถามตัวเองดูซิว่าเราจำเป็นต้องไปศึกษาหรือฝึกฝนสิ่งใดเพิ่มเติมอีกบ้าง จะจัดวางตำแหน่งตัวเราเข้าสู่ตลาด ณ ที่แห่งหนใดได้บ้าง เลือกเองได้เลยหรือไม่ ยังต้องเตรียมเครื่องมือทางการตลาดเข้าช่วยอยู่อีกหรือไม่ เช่น ประวัติย่อการทำงาน (Resume) จดหมายแนะนำตัวในการสมัครงาน หรือ นามบัตร ลองตรวจสอบดูว่าประวัติย่อของตนบรรยายความด้านประสบการณ์และทักษะต่าง ๆ ครบถ้วนหรือไม่ อย่าลืมว่าคุณก็ยังอยู่ในสภาวะควบคุม ณ ตอนนี้ไม่มีแนวทางที่แน่นอนให้ตัดสินใจได้มากนัก อาจลงเอยที่ว่า "นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องทำและจะทำทุกอย่างให้เกิดผลสำเร็จให้ได้" แน่นอนคุณต้องร่างหรือเขียนแผนงานขึ้นมา แล้วจัดวางขั้นตอนอย่างมีเหตุผลเริ่มจากทิศทางที่คุณเป็นอยู่จากจุดหนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งที่คุณมุ่งหวังเอาไว้ภายใน 6 เดือนหรือ 1 ปี หรืออาจเป็นภายใน 5 ปีก็ตาม

        สิ่งสำคัญอื่น ๆ อีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องนำมาพิจารณาในช่วงเวลานี้คือ คุณต้องเตรียมพร้อมกับอุปสรรคอีกหรือไม่ อย่าลืมว่าชีวิตคนเราไม่ได้ประกอบด้วยความราบรื่นหรือเดินบนถนนที่เป็นเส้นตรงไร้โค้งมุมต่าง ๆ ดังนั้น จงเตรียมพร้อมทางด้านจิตใจเพื่อเดินทางไกลแม้ว่าเราอาจจะพอมีโชคและมั่นคงอยู่บ้างในตอนแรก ๆ ก็ตาม
        ผลักดันแผนของคุณนำไปสู่การปฏิบัติ : การปฏิบัติจริงต้องมีระเบียบวินัยและมีการจัดการที่ดีด้วยตัวเองเสมอ ณ ตอนนี้คุณกำลังเดินทางเข้าสู่ภาวะการรณรงค์ทางการตลาด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณก็สามารถพิชิตงานในตลาดได้ด้วยศักยภาพด้านงานอาชีพที่คุณมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ขั้นตอนที่กล่าวไว้ในกฎข้อ 3 นี้ ต้องการให้คุณต่อสู้ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อให้ได้นั่นเอง โดยต้องจัดการกับแผนงานให้นำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างจริงจัง ช่วยนี้แหละที่ต้องการการขับเคลื่อน ต้องมีการกระทุ้งตัวเองให้ดำเนินการให้สำเร็จตามเป้าหมายให้จงได้ การจัดวางเป้าหมายนั้นแล้วกระทำให้เสร็จในกรอบเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัดแล้วลงมือทำสิ่งที่สำคัญ ๆ นั้นให้สำเร็จตามเป้าหมายต่อไปนั่นเอง
        ทบทวนความก้าวหน้าของอาชีพตนเป็นประจำ : ในขั้นตอนท้าย ๆ ไม่อาจเน้นย้ำอะไรจนเกินไปได้ ขอให้คุณทบทวนขั้นตอนทั้งหมดที่ทำไปแล้วประเมินดูว่าเราอยู่ในหรือออกนอกเส้นทางหรือไม่ การทบทวนเป็นประโยชน์ต่อเราเพื่อตรวจดูความต้องการของทั้งตัวเราและตลาดงาน อีกทางหนึ่งอาจจากผลสะท้อนกลับจากนายจ้างหรือบริษัทที่มีศักยภาพสูงก็ได้ ซึ่งผลสะท้อนนั้นอาจช่วยให้เราต้องเพิ่มความพยายามและเตรียมพร้อมให้มากขึ้น ลองพิจารณาดูว่าประวัติย่อ (Resume) ของเราจูงใจผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์หรือนายจ้างหรือไม่เพียงใด ตรวจสอบดูอีกว่าจดหมายนำเสนอคุณสมบัติของเรากระชับตรงเป้าหมายหรือยัง ทบทวนทั้งหมดอีกทีว่าเราใช้กลยุทธ์ทางการตลาดในการนำเสนอตัวเราได้มีประสิทธิภาพพอที่จะเข้ารับการสัมภาษณ์ได้หรือไม่

       ข้อสุดท้ายคือ คุณดำเนินการได้คืบหน้าตามแผนหรือยังหรือต้องการการสนับสนุนอีกครั้ง : ในบางครั้งหากปรึกษาผู้รู้ระดับมืออาชีพอาจช่วยคุณได้หรือแม้กระทั่งเพื่อนของคุณ ประเด็นสำคัญของวัตถุประสงค์อาจช่วยคุณให้มีมุมมองที่แตกต่างไปได้ และมุมมองนั้นยังสามารถช่วยส่งเสริมให้คุณเตรียมการด้วยตนเองได้เพื่อนำไปสู่ภาคปฏิบัติที่ทรงพลัง อย่ายอมให้ความสำเร็จหลุดลอยผ่านไป ใส่ความพากเพียรให้คงอยู่กับเราเพื่อเป็นกุญแจหลักนำทาง และต้องก้าวต่อไปแล้วรับรองว่างานอาชีพที่หวังไว้จะเป็นของคุณในที่สุด