ขั้นตอนในการทำสิ่งต่างๆ สะดวก รวดเร็ว อย่างเช่นการใช้งานอินเทอร์เน็ต ถ้ารู้จักใช้ ใช้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ มากไปกว่าการเป็นสื่อเพื่อการพูดคุย การหามิตรใหม่ หรือเน้นไปเพียงแค่ความบันเทิง สื่ออินเทอร์เน็ตก็ถือเป็นสิ่งที่บันดาลสารพันให้ในสิ่งที่ต้องการรู้ และต้องการทำ ...

          แล้วขณะนี้ที่เป็นช่วงบัณฑิตใหม่ และสายวิชาชีพด้านอื่นๆ ผลิตบุคลากรของประเทศสำเร็จกันออกมาแล้วอีกหนึ่งรุ่น สิ่งที่พวกเขาเหล่านี้ต้องเผชิญต่อไปคือการใช้สิ่งที่เรียนมา ประกอบสัมมาชีพเพื่อเลี้ยงตัวต่อไป 

          บรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึก ในการหางานของผู้เขียนที่แม้จะผ่านมานาน (มาก) แล้ว แต่ก็ทราบดีว่าสำหรับผู้ที่จะเริ่มก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงาน เรื่องการหางานนับเป็นเรื่องใหญ่ ต้องเตรียมเอกสารที่บอกความเป็นตัวเรา ที่เรียกว่าเรซูเม่ (resume) แบ่งให้เรียบร้อยเป็นชุดๆ เพราะไม่มั่นใจว่าต้องสมัครงานกี่ที่จึงจะสำเร็จดังประสงค์ เดินทางเข้าออกตึกนั้นตึกนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งอาคารสำนักงานต่างๆ เป็นภาพของความวุ่นวายอยู่ไม่น้อยทีเดียว

          แต่สำหรับสมัยนี้ ที่มีสื่ออินเทอร์เน็ตขึ้นมา ทำให้ช่องทางทั้งจากผู้หางาน และผู้ต้องการบุคลากรไปทำงาน พบกันง่ายขึ้น และที่สำคัญไม่มีการจำกัดเวลาด้วย การสมัครงานสามารถที่จะทำได้หลังเวลาเลิกงานปกติ หรือจะล่วงเลยเป็นดึกดื่นหลังเที่ยงคืนก็เกิดขึ้นได้ในยุคนี้ ซึ่งตัวเลขการเติบโตสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต การจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่งเครื่องพีดีเอ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งสามารถทำงานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นับวันจะทวีจำนวนขึ้น เป็นสิ่งยืนยันที่ดีถึงจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันที่ตัวเลขเพิ่มเป็นสิบๆ ล้านคน ช่องทางเหล่านี้เองจึงเป็นโอกาสที่ดีเพื่อมาเสริมเป็นทางเลือกให้กับผู้หางานทำในยุคใหม่ 

เตรียมตัวสมัครงาน 

       ต้องอย่าลืมว่า แม้จะมีอินเทอร์เน็ตมาเป็นช่องทางหนึ่งเพื่อการสมัครงาน แต่อินเทอร์เน็ตก็คือสื่อสื่อหนึ่ง ความสำคัญจึงอยู่ที่การเตรียมข้อมูลของเราต่างหากที่จะประกาศออกไปให้บริษัทต่างๆ ได้มาพบกับเพชรน้ำงามทั้งหลาย แต่ก่อนเพชรจะถูกพบและถูกเจียรนัย เราก็ต้องมาทำตัวเองให้เป็นหินมีค่านี้เสียก่อน ด้วยการเตรียมเอกสารการสมัครงานหรือเรซูเม่ไว้ให้พร้อม เพราะถึงแม้จะเป็นการสมัครงานทางอินเทอร์เน็ต ที่ยังไม่ต้องส่งเอกสารแนบไป แต่ว่าเว็บไซต์ที่ให้บริการเรื่องการหางาน การสมัครงาน ในยุคนี้ ก็พัฒนาให้สามารถใส่ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้มากกว่าการบอกว่าเราชื่อเรียงเสียงไร จบการศึกษาทางด้านไหน สนใจทำงานอะไร 

       ดังนั้นรูปแบบการเตรียมเรซูเม่จากที่มีผู้รู้แนะนำเป็นตำรับตำรามากมาย หรือการขอความรู้จากผู้มีประสบการณ์ การเตรียมเรซูเม่อย่างมืออาชีพจึงมีความจำเป็นอยู่ 

       หลักการที่มีมา เช่น การเขียนตำแหน่งที่ตัวเองสนใจ และบริษัทที่สนใจ ควรเตรียมข้อมูลไว้มากกว่าแค่รู้ว่าบริษัทชื่ออะไรหรือทำธุรกิจประเภทไหน เช่น ต้องการเป็นฝ่ายการตลาดของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคม ก็ให้บอกไปด้วยถึงความสนใจที่ตัวเองมีว่าเป็นระดับไหน เคยผ่านการฝึกอบรมอะไรมาบ้าง ที่จะสอดคล้องกับตำแหน่งที่ตัวเองสมัคร ใช้คำให้กระชับ เรียงลำดับเหตุการณ์ให้ดี เพื่อให้ข้อมูลการสมัครงานนั้นมีความน่าสนใจขึ้นมา จนผู้ว่าจ้างสนใจที่จะคลิกเข้ามาอ่านข้อมูล ที่สำคัญกรอกข้อมูลให้ครบ โดยเฉพาะข้อมูลที่จะทำให้แต่ละบริษัทติดต่อกลับมาได้ นั่นก็คือหมายเลขโทรศัพท์ เพราะบ่อยครั้งเกิดเหตุการณ์ที่ว่าเขียนเรซูเม่ไว้ดีมาก แต่ลืมให้หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ทำให้ตกม้าตายง่ายๆ ไปเสียอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับหลายเว็บไซต์มีระบบช่วยทวนว่าได้กรอกข้อมูลครบทั้งหมดหรือไม่ นับว่าเป็นข้อดีแห่งยุคเทคโนโลยี เพื่อไม่ให้หลงลืมในเรื่องสำคัญ 

หาเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง 

       สิ่งที่ควบคู่มากับโลกไซเบอร์หรืออินเทอร์เน็ตประการหนึ่ง คือเรื่องของการหลอกลวง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากขจัดและสามารถพบเจอได้โดยง่าย เนื่องจากการพัฒนาที่รวดเร็ว เข้าถึงได้ง่าย แหล่งที่มาของข้อมูลจึงเกิดขึ้นมากด้วยเช่นกัน สำหรับเว็บไซต์ที่ให้บริการเรื่องการหางานในปัจจุบันมีเป็นจำนวนมาก เช่น www.jobsdb.com www.jobsthai.com www.jobsiam.com www.jobjob.co.th ซึ่งถ้าใช้วิธีการหาด้วยการพิมพ์คำว่า “หางาน” ข้อมูลก็จะปรากฏออกมาเป็นแถว แล้วจะทำอย่างไรจึงจะทำให้รู้ว่าเว็บไซต์ใดเชื่อถือได้เชื่อถือไม่ได้ สมัครงานไปแล้วข้อมูลจะได้ไปถึงมือบริษัทที่กำลังหาบุคลากรจริง และไม่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในกลุ่มมิจฉาชีพ

       คำแนะนำเบื้องต้นคือต้องดูรายละเอียดของผู้จัดทำเว็บไซต์นั้นขึ้นมาก่อน โดยสามารถเข้าไปดูได้ตรงส่วนที่อาจจะบอกว่า “เกี่ยวกับเรา” บ้าง “about us” บ้าง และต้องมีสถานที่ตั้งของบริษัทอย่างชัดเจน มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้มีเพียงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ให้บริการเว็บไซต์หางานหลายราย เป็นบริษัทในเครือบริษัทที่มีธุรกิจอื่นๆ และมีชื่อเป็นที่รู้จักอยู่บ้างแล้ว ยิ่งถือเป็นการดีที่จะมอบความไว้วางใจให้ ส่วนการเข้าถึงข้อมูลได้นั้นให้เลือกเว็บไซต์ที่ต้องลงทะเบียนก่อน เพื่อที่จะตั้งรหัสส่วนตัวได้ ไม่ใช่ให้ใครก็ตามสามารถที่จะมาดูข้อมูลก็ได้ แต่ควรต้องเป็นผู้ที่จัดทำเว็บไซต์ได้ช่วยกลั่นกรองข้อมูลระดับหนึ่งแล้วถึงการมีตัวตนอย่างแท้จริง สำหรับบริษัทที่ต้องการคนทำงาน

       เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการหางานนี้เกิดขึ้นในบ้านเรามาแล้วระยะเวลาหนึ่งไม่ต่ำกว่า 5-6 ปี ซึ่งสถิติจาก www.jobsdb.com แสดงว่ามีผู้ใช้งานจำนวนมาก เป็นแหล่งรวมทั้งจากบริษัท และคนสมัครงานที่หลากหลาย รวมถึงระดับการศึกษาของผู้ที่เข้ามาสมัครงานผ่านเว็บไซต์มีในทุกระดับด้วย คือ ดุษฎีบัณฑิต (Doctorate) 0.98% ระดับมหาบัณฑิต (Master Degree) 24.21% บัณฑิตศึกษา (Degree) 70.19% ประกาศนียบัตร (Diploma) 3.49% อื่นๆ 1.13% โดยอายุเฉลี่ยของผู้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์อันดับหนึ่งจะอยู่ที่อายุประมาณ 21-30 ในสัดส่วนที่ 48.47%

ผู้ให้บริการที่ไม่หยุดการพัฒนา 

       ในแวดวงของผู้ให้บริการหางานทางเว็บไซต์เองก็มีพัฒนาการอยู่ตลอด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด และเป็นส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดการได้งานทำ เว็บไซต์ www.jobjob.co.th เว็บไซต์ที่เกิดจากการจัดทำของบริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกันกับหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ซึ่งเป็นตัวอย่างใกล้ตัวที่สุดในฐานะเครือเดียวกัน ที่พอจะนำมาบอกเล่าถึงพัฒนาการการจัดทำเว็บไซต์เพื่อการหางานทำ

       เว็บไซต์ www.jobjob.co.th ได้ใช้ระบบการทำงานที่เรียกว่า Job Matching Genius ผู้ช่วยแมตช์งานอัจฉริยะ เพื่อบริษัทหาคนและคนหางาน ระบบนี้จะทำให้การเลือกคนเหมาะสมกับงานที่สุด โดยเมื่อผู้ใช้บริการใส่ข้อมูลคุณสมบัติที่ต้องการ ระบบแมตช์งานอัจฉริยะจะประเมินความสามารถของผู้สมัครและความต้องการของบริษัท แสดงผลการแมตช์ออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ ช่วยลดระยะเวลาและความยุ่งยากในการคัดเลือกคุณสมบัติของผู้สมัคร เพราะเว็บไซต์จะมีฐานข้อมูลประวัติของคนหางานที่มีประสบการณ์จำนวนมากที่ได้ฝากประวัติการทำงาน (resume) ไว้ โดยเฉลี่ยแต่ละวันมีผู้ที่เข้ามาหางานกว่า 1 หมื่นคน และเมื่อคุณสมบัติของผู้หาและผู้ต้องการตรงกัน ระบบจะมี Job Alert ส่งตรงถึงผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ต้องการไปทางอีเมลที่กรอกไว้ทันที

       บริษัทที่อยู่ในเว็บไซต์ www.jobjob.co.th เองนั้น ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงดีอยู่แล้ว เพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนข้อมูลจากการลงโฆษณาย่อยในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ และหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ นั่นเอง จึงเป็นเสมือนตัวช่วยกลั่นกรองให้กับผู้หางานได้

       นอกจากนี้ เว็บไซต์ www.jobjob.co.th ยังมีเนื้อหา บทความ ที่เป็นประโยชน์ กับการหางานทำ หรือแม้แต่ได้งานทำแล้ว จะพัฒนาตัวเองต่อไปอย่างไร เพื่อให้ประสบความสำเร็จในวิชาชีพอย่างสูงสุด ซึ่งเป็นการรวบรวมบทความเรื่องงานที่เคยตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์มาแล้ว รวบรวมมาให้ง่ายต่อการเรียกดูข้อมูลมาศึกษาได้

       เห็นไหมละว่า ในยุคสมัยนี้เรื่องยากๆ บางเรื่อง ก็ทำให้ง่ายได้ด้วยการ “คลิกมือเดียว” แต่ว่าคงไม่ได้จบอยู่ที่คลิกเดียวเท่านั้น เพราะในที่สุดแล้วตัวเราคือสิ่งสำคัญที่จะบ่งบอกการประสบความสำเร็จในอนาคต สุดท้าย..ขอให้ผู้หางานทุกคนโชคดีกับช่องทางการหางานในรูปแบบใหม่ๆ