เตรียมตัวอย่างไร…เพื่อไปงานนัดพบแรงงาน

 
           นอกเหนือจากการสมัครงานด้วยการอ่านประกาศตามหน้าหนังสือพิมพ์และเขียนจดหมายสมัครงานส่งไปยังบริษัทต่าง ๆ เหล่านั้นแล้ว ยังมีแหล่งที่ถือว่าเป็นตลาดแรงงานแหล่งใหญ่อีกนั่นก็คือ "งานนัดพบแรงงาน" หรือที่บางคนอาจจะเรียกงานนี้ว่า "JOB FAIR" ก็ขอให้เข้าใจว่าคือความหมายเดียวกันนะครับ คราวนี้อันว่างานนัดพบแรงงานนี้น่ะเขามักจะจัดกันตามสถาบันการศึกษาอาทิเช่น ตามมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัย หรือไม่อย่างงั้นก็จะจัดตามแหล่งสาธารณะเช่นศูนย์การค้า เป็นต้น ซึ่งก็จะมีรูปแบบของงานที่คล้าย ๆ กันคือจะมีมากมายหลายบริษัทมาร่วมกันตั้งโต๊ะ(บางคนอาจจะเรียกว่าตั้งบู๊ธ(Booth)ซึ่งบู๊ธก็ต้องมีโต๊ะตั้งไว้เหมือนกันแหละไม่งั้นคนรับสมัครเมื่อยขาแย่เลย) คราวนี้แต่ละบริษัทต่างก็จะมีเจ้าหน้าที่ของตนมาคอยตอบข้อซักถามจากบรรดาผู้สนใจทั้งหลาย พร้อมทั้งแจกใบสมัครงานให้ผู้สนใจนำไปกรอกและกำหนดให้นำใบสมัครพร้อมหลักฐานการสมัครงานต่าง ๆ มาส่งให้ภายในเวลากี่โมงก็ว่ากันไป ซึ่งทำให้ทั้งผู้ต้องการสมัครงานและเจ้าหน้าที่ที่รับสมัครงานของบริษัทมีโอกาสได้แลเห็นตัวซึ่งกันและกันพอสมควร ดีกว่าการรอรับจดหมายสมัครงานซึ่งเจ้าหน้าที่รับสมัครจะเห็นแต่เพียงรูปถ่ายเท่านั้นไม่มีโอกาสได้เห็นการเจรจาโต้ตอบหรือบุคลิกลักษณะได้ชัดเจนนัก ซึ่งตรงจุดนี้แหละครับทำให้ผู้สมัครบางรายที่ละเลยหรือไม่ได้ใส่ใจในเรื่องของตัวเองเท่าไหร่นักเสียโอกาสที่จะได้งานไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเหตุดังนี้คือ....  
 

          1. เตรียมเอกสารมาไม่พร้อม ในเรื่องนี้มีหลายสาเหตุครับเช่นอาจจะเตรียมมาพร้อมในตอนแรกแต่ตอน ต่อ ๆ มาอาจจะสนุกสนานกับการสมัครงานจนเอกสารที่เตรียมมาหมด(เพราะไม่ได้ถ่ายเอกสารเผื่อเอาไว้) ทำให้เอกสารประกอบการสมัครงานไม่ครบซึ่งตรงนี้เป็นข้อเตือนใจสำหรับนักสมัครงานประเภทสมัครดะเรื่อยไปเหมือนคนซื้อล๊อตเตอรี่หลาย ๆ ใบแล้วหวังฟลุ๊คถูกเข้าสักใบนะครับ คือท่านควรจะสมัครงานด้วย "สติ" นะครับนั่นคืออย่าแห่สมัครงานไปตามเพื่อนทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบงานนั้นหรือไม่หรือมีความสามารถจะทำงานนั้นได้หรือเปล่า ควรเลือกงานที่เหมาะกับความรู้ความสามารถที่ท่านมีอยู่ หากมีข้อสงสัยก็สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ครับ ดีกว่าการสมัครแบบเหวี่ยงแหซึ่งสุดท้ายมักจะไม่ได้งานที่ตนเองถนัดหรือต้องการ ดังนั้นในเรื่องนี้ท่านควรถามตัวเองและตรวจเอกสารเกี่ยวกับการสมัครงานให้ครบถ้วนก่อนมางานนัดพบแรงงานนะครับ ส่วนว่าเอกสารมีอะไรบ้างนั้นผมได้บอกให้ทราบไปแล้วในตอนต้นนะครับ

 
 

          2. การแต่งกาย มีคำกล่าวอยู่ว่า "แต่งกายดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง" นั้นมีส่วนจริงเหมือนกันนะครับเพราะในงานนัดพบแรงงานนี้ทางเจ้าหน้าที่รับสมัครงานนั้นอาจจะไม่ได้มีเฉพาะเจ้าหน้าที่ธรรมดาทั่วไป แต่อาจมีผู้บริหารที่อำนาจรับสมัครงานมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ด้วย เผลอ ๆ ท่านอาจจะกำลังสอบถามหรือพูดคุยอยู่กับผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลอยู่โดยไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้นหากท่านแต่งกายปอน ๆ หรือลากรองเท้าแตะไปมาก็คงพิจารณาได้ในแง่ของความเรียบร้อยรู้จักกาละเทศะนะครับ ยังไงก็พยายามแต่งกายแบบที่คนทำงานเขาแต่งกันจะดีกว่าคือสุภาพเรียบร้อย(ไม่ได้เน้นว่าจะต้องเป็นเครื่องแต่งกายที่มีราคาแพงนะครับ)ดูดี ก็จะทำให้ท่านได้เปรียบคู่แข่งอีกหลาย ๆ คนที่ไม่ได้เตรียมพร้อมในเรื่องการแต่งกายนะครับ

 
 

          3. เตรียมการถูกสัมภาษณ์ ในเรื่องนี้คือในการที่ท่านไปสอบถามข้อสงสัยต่าง ๆ จากเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่มารับสมัครงาน ท่านอาจจะถูกสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการเข้าก็ได้ในกรณีที่ท่านมีคุณสมบัติตรงตามที่บริษัทนั้น ๆ กำลังหาอยู่ ซึ่งท่านจะต้องเตรียมคำตอบให้เป็นที่สนใจกับบริษัทนั้น ๆ ให้ดีอีกทั้งกิริยาท่าทางควรแสดงถึงความกระตือรือร้นและสนใจในงานนั้นอย่างจริงจัง จะทำให้ท่านได้เปรียบคู่แข่งที่ไม่ได้เตรียมตัวหรือคู่แข่งประเภทกลัวดอกพิกุลร่วง(ถามคำตอบคำ)อย่างแน่นอน ในเรื่องนี้การแสดงถึงความมั่นใจในตัวเองให้ผู้สัมภาษณ์เห็นเป็นสิ่งสำคัญครับ

 
 

          4. การสมัครงานกับบริษัทใหญ่ ๆ ย่อมจะต้องมีคู่แข่งมากกว่าบริษัทที่เล็กลงมา อันนี้เป็นความจริงครับเพราะใคร ๆ ก็สนใจและอยากทำงานกับองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นจะทำให้มีใบสมัครให้คัดเลือกเป็นจำนวนมาก หากท่านที่ทราบอยู่แล้วว่าคุณสมบัติไม่ตรงกับที่บริษัทแจ้งไว้ก็ไม่ควรสมัครให้เสียเวลาครับเพราะยังไงท่านก็ถูกคัดออกแน่นอน เช่น บริษัทต้องการผู้สมัครจบ MBA.เท่านั้น แต่ท่านจบ M.Econ หรือปริญญาโทสาขาอื่น ๆ ก็ไม่ควรไปสมัครหรอกครับเพราะเขาคัดออกแหง ๆ ในขณะเดียวกันบริษัทเล็ก ๆ ย่อมจะมีโอกาสได้รับใบสมัครน้อยกว่าบริษัทใหญ่ ๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถเลือกได้มากนัก ท่านจึงควรใคร่ครวญให้ดีว่าจะทำงานกับบริษัทที่ไม่ต้องใหญ่นักแต่มีโอกาสเจริญเติบโตไปพร้อมกับบริษัทดี หรือจะไปอยู่ในบริษัทใหญ่ ๆ เลยแต่โอกาสก้าวหน้าอาจจะช้าหน่อยข้อดีคือจะได้เห็นระบบงานที่ใหญ่กว่า เรียกได้ว่าดี-เสียกันคนละอย่างล่ะครับ อันนี้อยู่ที่ท่านจะตัดสินใจกันเอง

 
 

            ที่ผมเล่ามาให้ฟังนี้เป็นเรื่องที่เป็นข้อคิดสำหรับท่านที่จะไปสมัครงานตามงานนัดพบแรงงานซึ่งคงจะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตัวตามสมควรนะครับ ส่วนที่อยากจะเน้นคือในข้อ สำหรับน้อง ๆ ที่เพิ่งจะจบการศึกษามาใหม่ ๆ เพราะยังไม่ค่อยคุ้นกับการแต่งกายในแบบของ"คนทำงาน" เท่าไหร่นัก อาจจะยังติดสไตล์การแต่งตัวแบบนักศึกษา ผมเผ้าก็ยังเป็นแบบทรงนิยมเช่น ผมยาว(สำหรับผู้ชาย) หรือบางคนก็ไปกัดสีผมให้เป็นสีประหลาด ๆ หรือ ฯลฯ ก็คงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปนะครับซึ่งในเรื่องนี้ผมจะขอไปสาธยายรายละเอียดต่อในเรื่องการเตรียมตัวเข้าสัมภาษณ์งานดีกว่านะครับ.